4.22.2016

OpenBag: ของฝากจากทริปแกรนด์โครเอเชีย (ออสเตรีย,สโลวีเนีย,โครเอเชีย,มอนเตเนโกร)


กลับมาจากเที่ยวได้เกือบอาทิตย์นึงแล้วเพิ่งมีเวลามาเขียน ฮืออออ
ตอนม.ปลายนี่กลับมามีเวลาพักยาวๆเลย สบายไปอีก
แต่นี่มหาลัยแล้วไง กลับจากเที่ยวปุ๊ปวันต่อมาต้องไปเรียนเลย เพราะมีเช็คชื่อ 5555
โอเค เข้าเรื่องๆ ทริปเที่ยวโซนยุโรปรอบนี้ช้อปสนุกมาก และต้องแข่งกับเวลาสุดๆ 
ประเภทแบบมีเวลาพิจารณาของแค่10นาทีเท่านั้น เวลาที่เหลือเอาไปต่อคิวจ่ายเงิน
แต่ก็ได้ของครบตามที่ต้องการ อิอิ มีอะไรบ้างไปดูกันเล้ยยย
ปล. รอบนี้ไม่มีขนมมารีวิวเพราะกินไปหมดแล้ว .____.

Bourjois healthy mix correcting concealer สี 52
อยากลองเจ้านี่มานานแล้ว เล็งมาตั้งแต่ไปยุโรปรอบแรก
แต่ก็หาไม่เจอสักที ไปรอบนี้เจอที่ร้าน dm ที่สโลวีเนียค่ะ 
เลยรีบตุนไว้เลยสองหลอด จำราคาเป็นยูโรไม่ได้ แต่ประมาณ400บาทไทยค่ะ
ไม่รู้ว่าจะทำให้ประทับใจเหมือนรองพื้นได้มั้ย ยังไม่ได้ลองจริงๆจังๆเลย :p

 Bourjois Blush สี 72 tomette
ได้มาจากร้านเดียวกับเมื่อกี้นี่แหละค่ะ 
เรื่องของเรื่องคือทำบลัชของเมย์บีลีนที่มีอยู่แตก
เลยไม่กล้าพกอันนั้นไปไหน ไว้ใช้ที่บ้านพอ
เลยจัดแจงสอยบลัชอันใหม่มาเพิ่มค่ะ
รู้สึกถูกชะตากับสีนี้ก็หยิบเลย จำราคาไม่ได้ และยังไม่ได้ลองเช่นกัน

Batiste Dry Shampoo XXL volume spray
เราเป็นคนที่ติดดรายแชมพูมากๆ เพราะขี้เกียจสระผม 55555
สูตรนี้ที่ไทยกระป๋องละ350บาท แต่ที่ร้าน BIPA ที่โครเอเชียกระป๋องละ32.90คูน่า
ก็ประมาณ175บาทเอง ถูกกว่าไทยเกือบครึ่ง แบบนี้จะให้ซื้อกระป๋องเดียวได้ไงล่ะ :D

 Maybelline Master Sculpt สี 02 Medium Dark
ติดใจการไล้ดั้งตอนที่ต้องแต่งหน้าเป็นหญิงย่า 55555
เลยตั้งเป้าไว้ว่าจะมาหาซื้อคอนทัวร์กับไฮไลท์ซะหน่อย
แล้วก็มาเจอกับอันนี้ที่ BIPA ร้านเดิม เลยเลือกสีกลางๆมาลองซะหน่อย
อันนี้ราคา 69.90 คูน่า ก็ประมาณ372บาทค่ะ

labello lip butter
ไม่รู้ทำไมมีแต่คนอยากได้อันนี้ 5555
มันเป็นลิปมันที่หอมมากกก หอมเหมือนขนม
ซื้อร้านเดียวกับดรายแชมพู ราคา19.90คูน่า ประมาณ106บาทค่ะ
(จะแอบบอกว่าเจ้าลิปนี่ไปๆมาๆที่โครเอเชียแอบถูกกว่าที่ออสเตรียเบาๆนะ 
แต่ก็ถูกกว่ากันแค่สิบกว่าบาท ใครไม่ซีเรียสก็โอเคค่ะ)

 Maybelline the colossal volum' express
อันนี้ก็ซื้อที่ BIPA เหมือนกัน แต่เป็นที่ออสเตรีย 5555
เห็นนางมีโปร1แถม1อยู่ค่ะ เลยจัดซะหน่อย
เราเลือกแบบ smokey eyes กับ waterproof มาลอง
ราคาเกือบๆ400บาทไทย ก็ตกแท่งประมาณร้อยปลายๆค่ะ แฮปปี้
ไม่รู้พอเอามาใช้กับอากาศที่ไทยจะไหลมั้ย TT ต้องรอดูค่ะ

The Body Shop flawless finish collection
วันท้ายๆก็จะอยู่ในช่วงที่ต้องใช้เงินยูโรที่แลกมาให้หมด 5555
ก็เดินงงๆเข้าไปในบอดี้ช็อปที่ออสเตรีย
จริงๆคืออยากได้บีบีของมันเฉยๆ แต่เห็นนางจัดโปรคู่กันอยู่
จับคู่กันจาก26ยูโรกว่าๆเหลือแค่23ยูโร ก็920บาท
ในเซ็ตนี้จะมีไพร์มเมอร์เนื้อซิลิโคนที่พนักงานนางบอกว่าจะทำให้เหมือนใช้แอพแต่งรูป
คือรูขุมขนเล็กลง หน้าเนียนงี้ แล้วก็จะแมตต์ตลอดทั้งวัน
อู้หูวววว ลองดูก็ได้ เชื่อคนง่ายไปอีก พอมาคิดอีกทียังไงก็เจ้านี่คงแพ้อากาศที่ไทยแหละวะ
ปล. พอเอากลับมาใช้ที่ไทยบีบีเนื้อมันแอบเหลวไม่เป็นครีมแล้วอะ
เขย่ายังไงก็เหลวเหมือนเดิม อากาศบ้านเรามันร้อนไปจริงๆนะคะคุณผู้โช้มมมม

Zoeva 103 / defined buffer foundation pinsel
ด้วยความที่ฟองน้ำลงรองพื้นของซีโฟร่ามันมาเน่าที่นี่ 
คือกลิ่นเหม็นมากเพราะชุบน้ำแล้วไม่มีโอกาสได้ตาก 55555
เลยตัดสินใจซื้อแปรงลงรองพื้นตัวนี้มาค่ะ ลงได้เนียนและติดทนดีมาก ลองมาแล้ว
แต่เจ็บใจมากเพราะมันแพงกว่าไทยตั้ง10บาท จะร้องไห้ TT 
แทบจะเลิกซื้อของที่ douglas แล้วเนี่ย เพราะหลายอย่างแพงกว่าไทยมาก

Daniel Wellington Glasgow 40mm
รักในความมินิมอลของนาฬิกายี่ห้อนี้
ซื้อที่สนามบินมอนเตเนโกรค่ะ ราคา135ยูโร ก็5400บาทถ้วน
ถูกกว่าซื้อในเว็บพร้อมโค้ดส่วนลดประมาณ400กว่าบาท ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ

กระเป๋าสตางค์ของ Michael Kors
อันนี้ซื้อที่สนามบินเวียนนาขากลับค่ะ ทีแรกว่าจะเข้าไปเดินเล่นเฉยๆ
แต่นางบอกว่าสีเหลืองนี่คอลเลคชั่นใหม่นะ บลาๆๆๆๆ
ใจอ่อนอีกแล้ว ซื้อก็ได้ 55555 จำราคาจริงๆของมันไม่ได้ จำได้แค่ได้ tax refund อีก13ยูโร

เสร็จแล้ววววกับการเปิดถุงช้อปปิ้งรอบนี้ เหมือนจะไม่เยอะแต่ก็เยอะอยู่นะ 5555
น่าจะงดช้อปปิ้งยาวๆเลย ใช้ของที่ซื้อมาให้คุ้มก่อน แหะๆ
แล้วก็เก็บเงินผ่อนนาฬิกาด้วย อันนี้พ่อแม่ไม่ซื้อให้ค่ะ
ก็ขอจบการสาธยายเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ

4.02.2016

Review: ภัตตาคารอาหารจีนเชฟป้อม พระราม 3

ไม่มีอะไรมาก เพิ่งจะว่างมาเขียนรีวิว แง 55555
ก็ขอเริ่มกันที่ร้านอาหารจีนที่เราค่อนข้างประทับใจมากๆก่อนเลยละกันค่ะ
วันนั้นเกิดนึกสนุกอยากจะหาอะไรกินแถวพระรามสาม แม่ก็นึกได้ว่ามีคนบอกว่าร้านนี้อร่อย
แล้วด้วยนิสัยเราที่ชอบลองอะไรใหม่ๆอยู่แล้ว ก็เลยจัดไป
เข้ามาถึงโต๊ะเปิดเมนูปุ๊ปก็โนไอเดียมากๆ ไม่รู้เลยว่าอะไรอร่อย
เลยสั่งเมนูแนะนำไปละกัน ง่ายๆเลย

จานแรก ไก่แช่เหล้า
หูยยยยไก่ดีมากกก เนื้อแน่น นุ่มเหนียวกำลังดี
กินกับยำแมงกระพรุนที่รองมาด้านล่างแล้วฟินมาก
หรือจะจิ้มพริกเผาด้วยก็ยิ่งดีงามเข้าไปอีก รักเลย

ซี่โครงหมูเชฟป้อม
ซี่โครงเนื้อนุ่มมาก ซอสก็อร่อยค่ะ หวานๆกำลังดี
รู้ตัวอีกทีอ้าวหมดจานแล้ว 555555

อะไรไม่รู้ลืมชื่อ
อันนี้อร่อยมากเหมือนกัน รสไม่จัดเกินไป เค็มกำลังดี
เส้นก็นุ่มกำลังดี กินได้เพลินๆเหมือนกัน 
ปล. เรานี่ซดน้ำจนเกลี้ยงเลย :p 55555

ราดหน้าปลาเต้าซี่
จานนี้บอกเลยว่าแค่เส้นก็อร่อยแล้ว เหมือนเค้าเอาเส้นไปคั่วกับกระทะก่อน หอมมมม
เครื่องก็เยอะอย่างที่เห็น จะถมเส้นอยู่แล้วมั้ง 55555
กลมกล่อมอร่อยมากกก วู้ว

สรุปคือประทับใจกันทั้งบ้านค่ะร้านนี้
อร่อยทุกเมนูที่สั่งมา ไม่มัน ไม่เลี่ยน ลืมภาพอาหารจีนเก่าๆไปได้เลย
เรื่องอาหารก็ต้องย้ำกันทุกครั้งว่าแล้วแต่ลิ้นคนจริงๆ
ก็อยากให้ไปลองกันเองเนอะ
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะะะะ :D

12.10.2015

Review: Nahim Cafe & Handcraft ซอยนานา

วันหนึ่งครับ....
"เลิกเรียนแล้วไปไหนอะวันนี้"
"ไปแถวเยาวราช"
พูดแบบนี้ตอนบ่ายๆแดดร้อนๆ เพื่อนที่ไหนมันจะอยากมาด้วย(วะ)
แต่แกกกก คือเราจะมาคาเฟ่ชิคๆแถวเยาวราชเว้ย ไม่ได้มาเดินร้อนๆแต่อย่างใด 
ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยนานา (ซอยเดียวกับเทพบาร์นั่นแหละ อิอิ)
เข้าได้2ทาง จะมาจากถนนไมตรีจิตก็ได้ หรือจะมาทางเจริญกรุงก็ได้ค่ะ (ถ้าเดินมานะ)

เข้ามาในร้านปุ๊ปเหมือนอยู่คนละโลกกับข้างนอกเลย
ร้านตกแต่งได้น่ารักมุ้งมิ้งมากๆ
ที่นั่งมีหลากหลายแบบมาก ทั้งโต๊ะธรรมดา นั่งเป็นชั้นๆขึ้นไป หรือแม้กระทั่งชิงช้า
ซึ่งเราเลือกนั่งชิงช้าริมหน้าต่าง ปรากฏว่านั่งยากมาก 555555 ถ้าจะนั่งกินไม่แนะนำ
ถ้ามานั่งชิวก้เหมาะอยู่ๆ :p

ตรงนี้ก็จะเป็นโซนขายของแฮนด์เมดน่ารักๆ 
แต่เรามาเพื่อกินเลยไม่ได้ไปสำรวจราคาแต่อย่างใด .____.

สั่งอาหารและจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์เลยนะคะ
วันนี้อยากกินอะไรที่อิ่มนิดนึง เลยสั่ง Soup Platter (180 บาท)
ในจานก็จะมีซุป ขนมปังลายอัลปาก้า เนย สลัด และน้ำสลัด
เราสั่งเป็นซุปฟักทองมา จริงๆมีให้เลือกหลายรส ไปดูที่เมนูกันได้
เห้ยซุปอร่อยมากกกกกก ซดแบบไม่ลืมหูลืมตาเลย ไม่หวานไม่เค็มจนเกินไป
ส่วนขนมปังนั้นร่วนไปนิดนึงค่ะ กินยากมาก ไม่ค่อยประทับใจ
ส่วนสลัดก็ผักสดดี น้ำสลัดเป็นแบบน้ำสลัดญี่ปุ่น ไม่ใช่แบบครีม อร่อยดีค่ะ

เครื่องดื่มเราสั่งเป็น Cold Brew Tea (90 บาท)
รสนี้จะหอมกลิ่นมะม่วงและสัปปะรด ขวดน่ารักมากกก
แต่ไม่ค่อยรู้สึกถึงความเป็นชาเท่าไหร่เลย
ใครที่อยากได้ชาแบบขมๆคงไม่ถูกใจเมนูนี้ค่ะ

**เพิ่มเติมเนอะ ได้ไปลองมาอีกเมนูนึงที่น่ารักมากๆ
นั่นก็คือ Chocolate Pot (120 บาท)
 มันจะมีช็อคโกแลตให้เลือก3แบบ มี dark มี milk แล้วก็อะไรอีกไม่รู้ ลืม 55555
แล้วก็จะเป็นนมร้อนมาให้เทช็อคโกแลตลงไป (ค่อยๆเทล่ะเดี๋ยวเข้มข้นเกิน)
แล้วก็จะมีกาใส่นมมาให้เติมอีกจำนวนหนึ่ง
คือรสชาติมันพอดี แล้วก็ประทับใจตรงวิธีการที่มันดูมีอะไรให้ทำ
ชอบมากกกกกกกกกกก :D

สรุปเลยละกันเนอะ อาหารและชาที่ได้ลองไปโดยรวมแล้วยังเฉยๆ
แต่บรรยากาศร้านนี่ให้เลยเต็มๆ น่ารัก สบายตามากๆ
ใครอยากมาลองก็มาได้ค่ะ อย่าไปผิดนานาล่ะ 5555

วันนี้ขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ -/\-

12.09.2015

Review: 2nd Yard ถนนเจริญกรุง

พอมาเที่ยวเยาวราชบ่อยๆเข้าก็เริ่มอยากหาที่กินแนวใหม่ในบริเวณใกล้เคียงบ้าง
พอดีกันกับที่ bkkmenu ได้โพสต์ว่ามีร้านแซนด์วิชเปิดใหม่ตรงถนนเจริญกรุง
พอเห็นแล้วก็อยากลองทันทีทันใด บึ่งไปตอนหลังเลิกเรียนอย่างไม่รอช้า 55555
ก็เลยนั่งรถสาย1มาแล้วลงตรงที่ก่อนจะเลี้ยวไปถนนมหาพฤฒาราม (ไม่แน่ใจชื่อ)
เดินย้อนหลังมาไม่ไกลค่ะ เลี้ยวซ้ายปุ๊ปเดินอีกนิดนึงถึงเลย มาง่ายสุดๆ

บรรยากาศในร้านก็ดูดิบๆดี ชอบๆ
ทีแรกว่าจะนั่งตรงบาร์ แต่รู้สึกอโลนไป เลยมานั่งตรงนี้แล้วกัน 55555
พี่ๆที่ร้านก็น่ารักมาก เป็นกันเอง เอาใจใส่ลูกค้าดี :D

ในส่วนของเครื่องดื่มนั้น เราได้ลองสั่ง Trix O Tea (65 บาท) 
 ออกแนวชาดำกลิ่นส้ม รสจะไม่ได้เปรี้ยวแหลม แต่กลับนุ่มเหมือนลาเต้
ผิดกับที่คาดไว้เหมือนกัน แต่อร่อยดีค่ะ

ในส่วนของแซนด์วิช เราก็ลองสั่ง Mushroom & Cheese (180 บาท)
ขนมปังที่ใช้ทำแซนด์วิชนี่คือเป็นแบบที่เราชอบเลย
เห็ดคือเขาเอาไปผัดซอสก่อน ใส่มอสซาเรลล่าชีส แล้วก็โรยด้วยพาร์เมซานอีกที
กัดทีนี่แบบชีสยืดดดดด -w- ฟิน รสชาติก็พอดีมากๆ อร่อยแรง แถมชิ้นใหญ่ด้วย
ใครอยากกินแซนด์วิชแบบอิ่มๆล่ะก็แนะนำที่นี่เลย

ก็เป็นอีกร้านที่อยากจะให้ไปลองกันเยอะๆ
กินที่เดียวจอด ไม่ต้องไปต่อร้านอื่นกันเลย อิ่มและฟินมากๆ
อยากจะยกให้เป็น The best sandwich in town กันเลยทีเดียว
ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 16:00-23:00 สะดวกช่วงไหนก็ไปกันได้เลย
วันนี้ขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ -/\-

11.15.2015

Review: Tealily สุขุมวิท 49/1

เราก็เป็นเหมือนหลายๆคนที่เวลาเห็นรูปถ่ายที่ร้านสวยๆในไอจีแล้วก็อยากจะพุ่งไปทันที
กับร้านนี้ก็เช่นกันค่ะ เห็นหลายๆรูปแล้วอยากไปมาก โดยเฉพาะรูปเจ้าแมวที่ชื่อโมจิ
ปกติเป็นคนไม่ชอบแมว แต่เห็นความแบ๊วของเจ้าโมจิแล้วก็อดไม่ได้ หลงรักเลยล่ะค่ะ
ก็เลยถือโอกาสเรียก GRABCAR จากMRTลุมพินีไป ใช้โค้ดแล้วเหลือ40บาทเท่านั้นเอง ถูกมากๆ
ร้านนี้เข้าได้จาก2ทางนะคะ จะเข้าทางซอยสุขุมวิท39หรือสุขุมวิท49ก็ได้

ถ้ามาจากซอย39แล้วเข้าซอยพร้อมมิตรให้ตรงมาจนสุด เลี้ยวขวาและเลี้ยวซ้ายซอยแรกเลย
ถ้ามาจากซอย49ก็เลี้ยวเข้าซอย49/1มาจนสุด เลี้ยวขวา และเลี้ยวขวาซอยแรกเหมือนกัน
แล้วก็เข้ามาไม่ลึกค่ะ นิดเดียว ป้ายร้านจะค่อนข้างเล็กนะคะต้องสังเกตดีๆ

ที่นั่งนอกร้านก็ดูชิวดีนะคะ แต่ร้อนไปนิด ฮ่าๆ แต่ถ้าใครอยากถ่ายรูปโทนสว่างๆ  
แนะนำให้นั่งด้านนอกดีกว่าค่ะ เพราะข้างในร้านไฟค่อนข้างจะสลัว

มาในส่วนของบรรยากาศโดยรวมภายในร้านกันบ้าง
แสงจริงๆแล้วค่อนข้างจะสลัว สบายตา เหมาะแก่การนอน 555555 แต่นี่เราปรับความสว่างเอา
ให้อารมณ์เหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ ชอบมาก
ข้างในเงียบมากนะคะ ไม่เหมาะจะมานั่งคุยจ๊อกแจ๊กเลย
ถึงจะเป็นคนเสียงดังแค่ไหน บรรยากาศภายในร้านจะบังคับเราให้กลายเป็นคนขี้เกรงใจ
ไม่กล้าพูดเสียงดังไปโดยอัตโนมัติเลย ส่วนตัวเรารู้สึกแบบนั้น 55555
ซึ่งก็เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการความสงบจริงๆ

พอนั่งปุ๊ปเขาก็จะเอาเมนูมาให้ แล้วก็เอาน้ำเปล่ามาเสิร์ฟเราก่อน

นั่งเปิดไปเปิดมาอยู่นาน สุดท้ายก็ตัดสินใจสั่ง Matcha Latte (120 บาท)
กลิ่นหอมมากๆ รสชาเขียวเข้มข้นสุดๆแต่ก็ละมุน แล้วก็ไม่หวานจนเกินไป
ใครที่ไม่ชอบชาหวานๆ อยากได้รสของชาจริงๆแนะนำเลย

และไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งนอกจากชาของร้านนี้ก็คือเจ้าแมวที่ชื่อ "โมจิ" นั่นเอง
ขนฟูนุ่ม แบ๊วได้ใจ ชอบทำตาโตใส่ อ๊ากกกกก -/////- (เป็นทาสแมวไปแล้วหรอเนี่ย)
(หืมมมมมม)
(ไอพวกมนู๊ดดดดดดดดดดดด)
(นอนดีกว่า)
(ทำหน้ากลมแปป)

สรุปเลยละกันเนอะ
ที่นี่เป็นคาเฟ่ที่ถูกใจของคนชอบกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ
และคงเป็นที่ถูกใจของเหล่าทาสแมวไม่แพ้กัน
ทุกคนที่ร้านเฟรนด์ลี่และเอาใจใส่ลูกค้าดีมากค่ะ
มีการถามถึงรสชาติและความพอใจ
แล้วก็ยังให้อุ้มโมจิเล่นได้อีกด้วย
ถูกใจมากๆ ไว้จะกลับไปอีกรอบแน่ๆ
วันนี้ขอจบการรีวิวไว้เพียงเท่านี้ บ้ายบายยยยยยยยยย

11.11.2015

Review: Green Coat Cafe ถนนพระอาทิตย์

กลับมาอีกครั้งพร้อมกับคาเฟ่เก๋ๆ 555555
วันนี้ได้มีโอกาสไปลองคาเฟ่ที่เล็งมานานตั้งแต่มาอยู่มธ.ท่าพระจันทร์
เดินผ่านหลายครั้งมากเวลาเดินออกทางหลังม.แต่ไม่มีเวลาไปนั่งชิวซักที
งานรุมบ้าง มีเรียนบ่ายบ้าง วันนี้เวลาเหมาะเลยชวนเพื่อนไปนั่ง ไปถ่ายรูปอัพไอจีเล่น :p

เดินออกจากประตูหลังม.มาแปปเดียวก็ถึงแล้ว
ร้านตกแต่งน่านั่งมากกกก ชอบร้านโทนสีสบายตาแบบนี้

พอเข้าไปข้างในก็สั่งขนม/เครื่องดื่มตรงเคาน์เตอร์กับพนักงานก่อนเลย
พนักงานดูคิดเงินงงๆพิลึก อยากให้ช่วยปรับปรุงตรงนี้ด้วยค่ะ

วันนี้คนน้อยเลยเลือกนั่งโซฟาตรงด้านในสุดของร้าน
บรรยากาศดีค่ะ มองออกไปด้านขวาเห็นวิวพวกต้นไม้เขียวๆเต็มไปหมดสมกับชื่อร้านเลย
และเป็นร้านที่เงียบสงบดี ถึงมีคนก็ไม่เสียงดังวุ่นวาย เหมาะกับการมานั่งทำงานอ่านหนังสือมากๆ

มาในส่วนของขนมและเครื่องดื่มบ้างดีกว่า

White Chocolate Cheesecake (85 บาท)
ครัสต์ข้างล่างทีแรกนึกว่าจะเป็นแบบโอรีโอ้กรุบๆร่วนๆ 
ที่ไหนได้อัดแน่นเชียว จนนึกว่าแผ่นช็อกโกแลต 55555
คำแรกๆอร่อยดีค่ะ ใช้ได้อยู่ ส่วนคำหลังๆเริ่มเลี่ยน T_T
คงเพราะชั้นครีมมันหนาไปนิดนึง ถ้าบางกว่านี้น่าจะอร่อยเลยทีเดียว
ส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยสมราคาเท่าไหร่แฮะอันนี้

 ลาเต้ร้อน (60 บาท)
ถึงลายจะยังไม่ค่อยสวยแต่รสชาติสมราคามาก
เข้มสะใจแต่ก็ละมุนในเวลาเดียวกัน เอาใจไปเล๊ยยย :D

สรุปเลยละกันเนอะ
กาแฟดีมาก สมราคา แต่ขนมยังต้องปรับปรุง 
เพื่อนที่สั่งเค้กอีกแบบไปก็บอกว่าเลี่ยนเช่นกัน
บรรยากาศร้านดูสะอาดตา สงบ สวยมาก ชอบบบบบ ><
ส่วนพนักงานดูมึนๆ แต่ก็ใจดีนะ โอเคอยู่ ไม่เหวี่ยงไม่วีน
เอาเป็นว่าถ้าวันไหนโหมงานจนไม่ค่อยได้นอน ก็จะมาพึ่งกาแฟจากร้านนี้เลย
ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ บ้ายบายยยยยยยย~